สัตว์โลกใต้ทะเลลึก

สัตว์ลึกลับใต้ทะเล

สัตว์ทะเลลึกมีการปรับตัวเพื่อให้สามารถต้านทานแรงดันน้ำได้ถึง 1,000 เท่าซึ่งเยอะมากกว่าความดันของอากาศบนบก ปลาบางชนิดในทะเลน้ำลึกมันมักจะกินสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กและปลาอื่น ๆ อีกทั้งพวกมันมีขากรรไกรขนาดใหญ่และยาวที่ยืนอยู่ด้านหลังฟันโดยทุกอย่างที่แหวกว่ายอยู่จะถูกพวกมันคว้าและกลืน ปลาบางชนิดมีการขยายท้องเพื่อให้พวกมันสามารถที่จะกินเหยื่อที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวเองได้ ที่ใต้ทะเลลึกนั้นสิ่งชีวิตส่วนมากเป็นดอกไม้ทะเล, เวิร์ม , ปลิงทะเล, ดาวเปราะปู , กุ้งและอื่น ๆ 

ใต้ทะเลลึกนั้นสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตนั้นจะน้อยลงมีแรงดันน้ำมหาศาลออกซิเจนน้อยสภาพน้ำนั้นเย็นยะเยือกเป็นจุดเยือกแข็งและบางส่วนมีอุณหภูมิสูงถึง 400 °C จนทำให้คิดได้ว่ายากที่จะมีสิ่งมีชีวิตอยู่ แต่กลับกลายเป็นว่าใต้ทะเลลึกแห่งนี้มีปลาหลากหลายสายพันธุ์ชนิดมากมายโดยมีการค้นพบน้อยมากเพียง 2% จากการค้นพบปลาในทะเลทั้งหมดซึ่งอาจมีสายพันธุ์ที่เรายังไม่ค้นพบอีกเป็นจำนวนหนึ่งโดยพวกมันนั้นมีการวิวัฒนาการแปลก ๆ เพื่อให้พวกมันปรับสภาพเพื่อที่จะสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสภาพที่สุดขั้วในสถานที่แห่งนี้ได้ แหล่งอาหารของพวกมันส่วยใหญ่ก็จะเป็นซากศพที่ตายแล้วตกลงมาเบื้องล่างหรือการล่า ทั้งนี้ก็มีปลาสายพันธ์ุต่าง ๆ มากมาย ได้แก่
1.ปลา Ocean Sunfish



ปลาที่มีชีวิตอยู่ใต้ท้องน้ำทะเลที่ลึกมากจนแสงอาทิตย์แทบจะไม่สามารถส่องลงไปได้ถึง ขนาดน้ำหนักของมันโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1 ตัน ซึ่งถือว่าเป็นปลากระดูกแข็งที่มีน้ำหนักมากที่สุดในโลก ยากมากที่เราจะได้มองเห็นมันจากน้ำตื้น เพราะมันหากินอยู่ใต้ทะเลที่ลึกหลายร้อยเมตร หากโชคดีสักครั้งอาจจะเห็นมันขึ้นมาเพียงเพื่อทำความสะอาดร่างกายจากเหล่าปรสิตที่เกาะอยู่ตามลำตัวเท่านั้นแต่นั่นก็ถือว่ายากยิ่งที่จะได้พบ
2.ปลา Megamounth Shark


 

ปลาที่เคยเป็นเพียงเรื่องราวในนิยายวิทยาศาสตร์ ทว่าเมื่อในปี 1976 และปี 2007 นักวิทยาศาสตร์กับได้ค้นพบตัวเป็น ๆ ของมันขึ้นมาจริง ๆ โดยการค้นพบนี้ยังมีการบันทึกได้อีกในภายหลังจากกล้องใต้น้ำถึงสามครั้ง เพื่อแสดงให้เห็นว่าปลาชนิดนี้มีชีวิตอยู่จริง ถือว่าเป็นฉลามพันธุ์โบราณที่หาได้ยาก และแทบจะไม่มีข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับตัวมันนอกจากสิ่งที่ยืนยันได้ว่าสิ่งมีชีวิตนี้ยังคงอยู่ในโลกสมัยใหม่ การดำเนินชีวิตส่วนใหญ่คล้ายปลาวาฬ กินอาหารที่เป็นแพลงตอนขนาดเล็กด้วยวิธีการกรองผ่านเหงือก ทำให้มันไม่มีฟันและแทบไม่จำเป็นต้องใช้ดวงตาอีกด้วย

3.ปลา Pelican Eel

เป็นปลาที่หน้าตาราวกับสัตว์ประหลาดที่ไม่คิดว่ามันน่าจะมีอยู่บนโลก แต่สำหรับเจ้าตัวนี้คือปลาไหลน้ำลึก ซึ่งมันแทรกตัวอยู่ตามพื้นทรายใต้ทะเลที่ไร้ซึ่งแสงแดด ปากขนาดใหญ่อันโดดเด่นของมันคือส่วนที่ส่วนที่น่าสนใจที่สุด ไม่ว่าอะไรที่ผ่านเข้ามาในบริเวณนั้นมันจะตรงเข้าไปตะครุบ โดยแทบไม่สนใจขนาดของเหยื่อว่าจะใหญ่แค่ไหน ถือว่าเป็นขากรรไกรที่ยืดหยุ่นและสามารถเปิดกว้างได้มากกว่าที่เราคิดเสียอีก
4.ปลา Chimaera

จัดอยู่ในสายพันธุ์ปลาโบราณหายาก เป็นปลาที่มีหน้าตาประหลาด ราวกับเป็นสัตว์ในยุคดึกดำบรรพ์ อาศัยอยู่ใต้ท้องทะเลลึกมากเป็นพันเมตร สามารถพบเห็นมันได้จากกล้องที่ถูกส่งลงไปใต้น้ำ ไม่มีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับการดำรงชีวิต เนื่องจากพบเห็นมันเวียนว่ายผ่านกล้องไปไม่กี่วินาที ส่วนการศึกษาก็ทำได้เพียงแค่โอกาสเหมาะเมื่อมันถูกจับติดแหขึ้นมา นักวิทยาศาสตร์ยังคงอยากศึกษาในช่วงที่มันยังมีชีวิตอยู่มากกว่า ส่วนจะงอยที่ยื่นออกมา สันนิษฐานว่าเป็นส่วนที่ใช้จับเซนเซอร์เพื่ออาหารที่ซ่อนอยู่ใต้พื้นทราย
5.ปลา Fangtooth

เป็นปลาที่ไม่เคยมีโอกาสจับได้ในช่วงที่มันมีชีวิตเลยสักครั้งเดียว หน้าตาของมันดูน่ากลัวและราวกับเป็นโครงกระดูกไร้ชีวิต เขี้ยวของมันด้านหน้าคือส่วนโดดเด่นและแลดูน่ากลัว ขนาดลำตัวทั้งหมดของมันใหญ่สุดเพียงแค่ 16 เซนติเมตร ทว่ามันกลับสามารถเข้าตะครุบเหยื่อที่ต้องการได้เกือบทุกอย่างที่ขวางหน้า ด้วยลักษณะของซี่ฟันและกรามอันทรงพลังของมัน
6.ปลาหมึกยักษ์ Giant Squid

เรื่องของหมึกยักษ์คือตำนานเล่าขานที่สืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคน และนี่คือภาพที่แสดงให้เราเห็นว่าเจ้าสัตว์ทะเลตัวนี้มันมีอยู่จริง และขนาดลำตัวใหญ่กว่ามนุษย์ถึงสองเท่า ความยาวที่วัดได้ตั้งแต่ส่วนบนสุดของลำตัวจรดปลายหนวดมีความยาวถึง 60 ฟุต เป็นอีกหนึ่งสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใหญ่ อาศัยอยู่แต่เพียงใต้ท้องทะเลลึก และไม่มีใครเคยพบเห็นมันแหวกว่ายในทะเล
7.สัตว์ประหลาด Giant Isopod

เราเคยอาจจะเห็นภาพขยายของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่เป็นปรสิต อาศัยอยู่ตามผิวหนังของมนุษย์ และไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ทว่าสำหรับเจ้าตัวนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ต้นตระกูลใกล้เคียงกัน มีขนาดใหญ่กว่าปรสิตที่อาศัยอยู่ในปากของพวกปลาหรือผิวหนังของเรามากถึง 10 เท่า แน่นอนว่ามันสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนด้วยตาเปล่า การดำรงชีพของมันคือคืบคลานไปตามพื้นทะเลลึก แล้วมองหาซากศพของสัตว์ที่ตายแล้วกินเป็นอาหาร
8.ปลา Paciic Blackdragon

ปลาหน้าตาประหลาดมีความยาวประมาณ 2 ฟุต อาศัยอยู่ภายใต้ทะเลน้ำลึกและมีขนาดลำตัวที่ใหญ่โต นักวิทยาศาสตร์จัดให้มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถดำรงอยู่ในห้วงน้ำลึกได้โดยไม่เป็นอันตราย แม้จะมีขนาดลำตัวที่ใหญ่ ทว่ามันกลับไม่สะทกสะท้านไปกับแรงดันน้ำอันมหาศาล ขนาดลำตัวที่ยาวใหญ่ของมันนี้เป็นเรื่องน่าฉงน เพราะเราจะพบเห็นเพียงตัวเมียเท่านั้น ส่วนตัวผู้ราวกับเกิดมาเพียงแค่ผสมพันธุ์ เนื่องจากมีขนาดแค่ 8 เซนติเมตร ระบบอวัยวะภายในยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่อีกด้วย
9.สัตว์ไร้กระดูกสันหลัง Amphipod

หนึ่งในสัตว์ประหลาดที่เห็นแล้วก็คงต้องนึกถึงภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ต่างดาวหรือปรสิตที่เข้ามาครองร่างมนุษย์ เจ้าสัตว์ชนิดนี้จัดอยู่ในประเภทไม่มีกระดูกสันหลัง เป็นสัตว์ที่มีขนาดเล็ก ทว่าความโดดเด่นของมันอยู่ก้ามอันแข็งแรง มันสามารถที่จะบุกเข้าโจมตีสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังได้อย่างไม่สะทกสะท้าน ตัวของมันเองยังมีความประหลาด สามารถเป็นสถานที่รับเลี้ยงอนุบาลตัวอ่อนหรือบ้านเพื่อสืบพันธุ์ของพวกมันต่อไปได้หรือนี่อาจจะเป็นเอเลี่ยนที่พวกเรามองหากันอยู่ก็เป็นได้
10.ปลา Viperfish

ปลาที่เกิดมาพร้อมด้วยสัญชาตญาณแห่งความโหดเหี้ยม หน้าตาของมันดูน่ากลัวสมกับพฤติกรรมอันโหดร้ายของมัน ดำรงชีวิตและหากินอยู่ภายใต้ท้องน้ำทะเลลึกที่ไร้แสงอาทิตย์ ขนาดลำตัวยาวไม่มากไปกว่า 1 ฟุต แต่ที่น่าสยดสยองก็คือมันกินทุกอย่างที่ขวางหน้าไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ขอให้ได้กัดก่อน ส่วนจะกินได้หรือไม่นั้นเอาไว้ค่อยคิดกันทีหลัง
11.ปลาขวานทะเลลึก 

ที่เรียกสั้น ๆ ว่า ปลาขวานนั้น ชื่อก็บอกอย่างตรงตัวแปลว่า ขวานด้ามเล็ก ๆ ซึ่งถูกตั้งมาจากลักษณะของตัวมันที่มองแล้วคล้ายกับขวานอย่างชัดเจน ส่วนลักษณะลำตัวของมันจะบางคล้ายกับใบมีดของขวานด้วย

12.ปลาเขี้ยวก้าง


หรือปลาสตอปไลต์ลูสจอว์ เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ใต้ทะเลลึก มีรูปร่างคล้ายปลาฉลาม โดยชื่อ สตอปไลต์ มาจาก Stoplight ซึ่งหมายถึงสัญญาณไฟจราจรนั่นเอง จะสามารถพบพวกมันได้มากที่ความลึก500เมตรลงไป

13.ปลาฉลามกรีนแลนด์


ปลากระดูกอ่อนชนิดหนึ่ง จำพวกปลาฉลามในวงศ์ปลาฉลามสลีปเปอร์ (Somniosidae) ปลาฉลามกรีนแลนด์ เป็นปลาฉลามกินเนื้อที่มีขนาดใหญ่ที่สุดชนิดหนึ่ง นับว่ารองมาจากปลาฉลามขาวเพราะอาจยาวได้ถึง 24 ฟุต และมีน้ำหนักได้ถึง 2,500 ปอนด์ แต่ขนาดโดยเฉลี่ยทั่วไปยาว 2.44–4.8 เมตร (8.0–16 ฟุต) และมีน้ำหนักประมาณ 400 กิโลกรัม (880 ปอนด์) ปลาฉลามกรีนแลนด์มีผิวหนังที่หนาหยาบเหมือนกระดาษทรายสีเทาเข้มเกือบดำ ครีบหลังเป็นเพียงโหนกสั้น ๆ ไม่เหมือนกับปลาฉลามทั่วไปมีขากรรไกรกว้าง มีฟันที่แหลมคมเรียงกันเป็นแถว บนขากรรไกรบน 48–52 ซี่ ในขณะที่ขากรรไกรล่างมีประมาณ 50–52 ซี่ ใช้สำหรับจับอาหารให้แน่นและงับเหยื่อ รวมทั้งสะบัดให้ขาด

14.ปลาฉลามก็อบลินหรือปลาฉลามปีศาจ


เป็นปลาฉลามน้ำลึกที่พบเห็นตัวได้ยาก และมีรูปร่างลักษณะประหลาด อันเป็นที่มาของชื่อและยังเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวในวงศ์และสกุลเดียวกันนี้ก็ยังดำรงเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน ถือได้ว่าเป็น "ซากดึกดำบรรพ์มีชีวิต" อีกชนิดหนึ่ง ที่มีรูปร่างแทบไม่แปรเปลี่ยนไปจากยุคก่อนประวัติศาสตร์ปลาฉลามก็อบลิน มีความยาวเต็มที่ได้ 3 หรือ 4 เมตร (10 และ 13 ฟุต) อาศัยอยู่ในเขตน้ำลึกได้มากกว่า 100 เมตร (330 ฟุต) ซึ่งเป็นที่ ๆ แสงส่องลงไปไม่ถึง พบชุกชุมที่โตเกียวแคนยอน ซึ่งเป็นหุบผาลึกใต้ทะเลในพื้นที่อ่าวโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยปกติแล้วจะมีลำตัวและครีบสีขาว แต่เมื่อถูกจับขึ้นมาจากน้ำลำตัวจะเปลี่ยนไปเป็นสีแดงเหมือนเลือด

15.ปลาฉลามครุย


เป็นปลาฉลามชนิดหนึ่ง ที่มีรูปร่างประหลาดมากคล้ายปลาไหล อาศัยอยู่ในน้ำลึก    1,968 – 3,280 ฟุตเชื่อว่าปลาฉลามชนิดนี้ กระจายพันธุ์อยู่ในเขตน้ำลึกใกล้นอร์เวย์,แอฟริกาใต้,นิวซีแลนด์,ชิลี และญี่ปุ่น มีรูปร่างเรียวยาวคลายปลาไหลหรืองูทะเล เป็นไปได้ว่าตำนานงูทะเลขนาดใหญ่ที่เป็นเรื่องเล่าขานของนักเดินเรือในสมัยอดีตอาจมีที่มาจากปลาฉลามชนิดนี้ มีผิวสีนํ้าตาลหรือเทาเข้ม มีซี่กรองเหงือก 6 คู่ สีแดงสด และฟูกางออกเหมือนซาลาแมนเดอร์บางชนิด

16.ปลาตะเกียง


เป็นปลาทะเลลึกขนาดเล็กมีจำนวน 246 ชนิดใน 33 สกุลและพบได้ในมหาสมุทรทั่วโลกพวกมันถูกตั้งชื่อตามความสามารถในการเรืองแสงของมัน จากการสุ่มตัวอย่างตรวจสอบปลาให้ทะเลลึกนั้นพบว่ามันมีจำนวนมากถึง 65% ของสายพันธุ์ปลาทะเลลึกทั้งหมดหรือก็คือมันเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังที่กระจายพันธุ์นอยู่อย่างแพร่หลายและมีประชากรมากที่สุดและยังมีบทบาททางนิเวศวิทยาที่สำคัญอย่างมากในฐานะของเหยื่อของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่

17.ปลาแบล็คสวอลโล



เป็นสายพันธุ์ปลาทะเลลึกในตระกูล Chiasmodontidae เป็นที่รู้จักด้วยความสามารถของมันทีสามารถกลืนปลาที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวเองได้ มันมีการแพร่กระจายไปทั่วโลกในเขตร้อนและเขตหุบเขาลึกใต้ทะเลลึก ภูเขาใต้ทะเลที่มีความลึก 700-2,745 เมตร (2,297-9,006 ฟุต) เป็นปลาทะเลลึกที่แพร่พันธุ์ได้แพร่หลายมาก

18.ปลาออร์หรือปลาริบบิ้น


มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับพญานาคตามความเชื่อของไทยหรือมังกรทะเลในความเชื่อในยุคกลางของชาวตะวันตก โดยมีความยาวได้สูงสุดยาวถึง 9 เมตร และหนัก 300 กิโลกรัม แต่ก็มีบันทึกไว้ใน guinness book ด้วยว่า ปลาชนิดนี้เป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังที่ยาวที่สุดในโลก โดยอาจยาวได้ถึง 11 เมตร ในขณะที่รายงานไม่ยืนยันอีกบางกระแสระบุว่าอาจยาวถึง 15 เมตร หรือกว่านั้น มีส่วนหัวที่ใหญ่ ลำตัวแบนสีเงิน มีจุดสีฟ้าและดำประปราย มีครีบหลังสีชมพูแดง บนหัวที่อวัยวะแลดูคล้ายหงอนเป็นจุดเด่น

19.ปลาตกเบ็ดหรือปลาแองเกลอร์ 


คือปลาทะเลลึกอยู่ในชั้นปลากระดูกแข็ง คำว่า แองเกลอร์ (Angler) นั้นมีความหมายว่า ผู้ตกปลา อันเป็นรูปแบบการล่าเหยื่อของมัน พวกมันมีสายพันธุ์มากกว่า 200 ชนิด สามารถพบได้ทั่วโลกบริเวณน้ำเขตร้อนตื้น ๆ บริเวณไหล่ทวีปจนถึงทะเลลึกนอกจากจะมีติ่งเนื่อเรืองแสงที่คล้ายเบ็ดตกปลาไว้ใช่ในการล่อเหยือแล้วมันยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือกรณีเพศสัณฐานของปรสิตเพศชายที่จะรวมตัวกันกับตัวเมีย

20.ปลาไหลมอเรย์


เป็นวงศ์ของปลากระดูกแข็งวงศ์หนึ่งมีรูปร่างเรียวยาวเหมือนปลาไหลทั่วไป ไม่มีครีบอก ครีบหลังเชื่อมต่อกับครีบก้นและครีบหาง โดยมีจุดเด่นร่วมกันคือ มีส่วนปากที่แหลม ไม่มีเกล็ดแต่มีหนังขนาดหนาและเมือกลื่นแทน เหงือกของปลาไหลมอเรย์ยังลดรูป เป็นเพียงรูเล็ก ๆ อยู่ข้างครีบอกที่ลดรูปเหมือนกัน เลยต้องอ้าปากช่วยหายใจเกือบตลอดเวลา คล้ายกับการที่อ้าปากขู่ นอกจากนี้แล้วภายในกรามยังมีกรามขนาดเล็กซ้อนกันอยู่ข้างใน ซึ่งปกติจะอยู่ในช่วงคอหอย แต่จะออกมาซ้อนกับกรามใหญ่เมื่อเวลาอ้าปาก ใช้สำหรับจับและขบกัดกินอาหารไม่ให้หลุด

21.ทากทะเลสั้น


เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังจำพวกมอลลัสกาเช่นเดียวกับหอยและหมึกจัดอยู่ในชั้นหอยฝาเดี่ยว ในอันดับย่อย Nudibranchia ทากทะเลมีลักษณะเด่น คือ ไม่มีเปลือกห่อหุ้มลำตัว เพราะเปลือกลดรูปจนมีขนาดเล็กคลุมตัวไม่มิด หรือไม่มีเปลือกเลย ทากทะเลส่วนใหญ่มีสีสวยสดงดงาม บางชนิดมีหลายสีบนตัวเดียวกัน และสามารถปรับสีของตัวให้เข้ากับสภาพของแหล่งอาศัย สีที่ฉูดฉาดของทากทะเลทำให้สัตว์อื่นหลีกเลี่ยงที่จะกินเป็นอาหาร

 22.กุ้งฮาโลวีน


โดยกุ้งลอบสเตอร์ตัวนี้ ถูกชาวประมงในเมืองบอสตัน รัฐแมตซาชูเซตส์จับได้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นกุ้งลอบสเตอร์ตัวเมียหนักราวครึ่งกิโลกรัม มีลักษณะแปลกตากว่ากุ้งลอบสเตอร์ทั่วไป คือ เปลือกของมันนั้นผ่าซีกเป็น 2 สี คือสีดำและสีส้ม ราวกับมันถูกนำไปทำให้สุกครึ่งตัว แถมยังผ่าตรงกึ่งกลางพอดีได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผู้เชี่ยวชาญเผย ลักษณะแปลกตาเช่นนี้เกิดขึ้นในกุ้งลอบสเตอร์ 1 ใน 50 ล้านตัวเท่านั้น
























ความคิดเห็น